ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 18 ม.ค. ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว
+ ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น หลังตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดิบ อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก กลุ่มโอเปกพลัสยังคงเพิ่มกำลังการผลิตอย่างจำกัด ล่าสุดอัตราความร่วมมือตามข้อตกลง (OPEC Compliance) ในเดือน ธ.ค. 64 ปรับสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 127% เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 64 ที่ 120%
+ ตลาดกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ โดยสหรัฐฯ ระบุว่ารัสเซียมีแผนที่จะโจมตียูเครน หากการเจรจาไม่สามารถหาข้อยุติได้
- หลังสถานการณ์ความขัดแย้งภายในประเทศลิเบียสงบลง และการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมันแล้วเสร็จ ทำให้ลิเบียสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมที่ 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อช่วงต้นปี 65 กลับสู่ภาวะปกติที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ได้อีกครั้ง
- หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง ทำให้จีนมีแผนที่จะระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาสตร์ ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. ถึง 6 ก.พ. 65
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 83.82 ตลาดปิด
เบรนท์ 86.48 +0.42
ดูไบ 85.05 +1.12
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 98.76 +1.06
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 98.62 +1.70
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 100.05 +1.43
น้ำมันเตา (3.5% S) 76.70 +1.33
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในเดือน ม.ค. 65 มีแนวโน้มปรับลดลง 17% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และการเกิดเพลิงไหม้ที่โรงกลั่น Kuwait National Petroleum Co.'s Mina al-Ahmadi ในช่วงปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน จะส่งผลกระทบไม่มาก ประกอบกับปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ม.ค. 65 มีแนวโน้มลดลง 38% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ข่าวเด่น