ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 24 ม.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับลดเล็กน้อย หลังปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากการขายทำกำไรของนักลงทุน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
+/- ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับลดลงเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบ 13 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ปริมาณแท่นขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้นกว่า 60% หรือ 226 แท่น
+ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลอุปทานที่ตึงตัว หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรไม่สามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามข้อตกลง ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งคาดราคามีโอกาสเพิ่มขึ้น โดย Bank of America คาดราคาน้ำมันเบรนท์จะแตะระดับ 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรลในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่ Morgan Stanley คาดว่าจะแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 65
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 21 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 85.14 -0.41
เบรนท์ 87.89 -0.49
ดูไบ 85.25 -1.16
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 21 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 99.22 -0.75
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 96.94 -1.32
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 99.32 -1.46
น้ำมันเตา (3.5% S) 79.31 -0.96
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มลดลง
ข่าวเด่น