ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 4 ก.พ. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อ หลังปริมาณน้ำมันดิบตึงตัวต่อเนื่อง และความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มจากอากาศหนาวในสหรัฐฯ
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อแตะระดับ 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2557 หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมที่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสำหรับเดือน มี.ค. 65 เพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน
+ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งกับรัสเซียเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครนยังคงตึงเครียด หลังยูเครนส่งสัญญาณเตือนว่า การสู้รบกับรัสเซียอาจจะลุกลามจนกลายเป็นสงคราม และจะส่งผลกระทบต่อทั้งทวีปยุโรป ขณะที่สหรัฐฯ จะส่งทหารเพิ่มเติมอีกเกือบ 3,000 นายเข้าไปยังโปแลนด์และโรมาเนีย เพื่อปกป้องยุโรปตะวันออก จากความเป็นไปได้ที่วิกฤตอาจลุกลาม
+นอกจากนี้ สภาพอากาศหนาวเย็นอันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาวในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง และไฟฟ้าดับหลายพันครัวเรือน โดยอาจกระทบต่อการผลิตน้ำมัน และโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการ ในขณะเดียวกัน ความต้องการใช้เชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 3 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 90.27 +2.01
เบรนท์ 91.11 +1.64
ดูไบ 87.56 -0.97
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 3 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 106.39 +0.84
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 102.69 +0.13
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 104.85 -0.63
น้ำมันเตา (3.5% S) 80.65 -0.19
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนิเซียปรับเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมสำหรับช่วงเดินทางในเดือนรอมฎอน ในเดือนเม.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชียปรับเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น