ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนอีกครั้ง จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ Non-Farm Employment Change ออกมาที่ระดับ 467,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม สูงกว่าคาดการณ์ที่ 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ปรับขึ้นมา 4.0% ส่งผลให้ราคาทองคำในช่วงสั้นร่วงหลุด 1,800 เหรียญอีกครั้ง โดยราคาทองคำทำต่ำสุดบริเวณ 1,790 เหรียญ แต่เพียงระยะสั้นๆ ราคาทองคำก็มีแรงซื้อกลับอีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำสามารถปิดที่ 1,807 เหรียญ ด้านดัชนีดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยในวันศุกร์เปิดที่ 95.30 จุด และทำต่ำสุดแถวบริเวณ 95.13 จุด ขณะที่เช้านี้แข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยที่ 95.47 จุด หนุนให้ค่าเงินบาทกลับแข็งค่าลงมาอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทแกว่งตัวในช่วงกลางคืนหลุด 33 บาท/ดอลลาร์ ก่อนค่าเงินบาทจะปิดตลาดที่ประมาณ 32.95 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 32.90 บาท/ดอลลาร์ลงมา ทั้งนี้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่ากดดันให้ราคาทองคำไทยปรับลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ระหว่างแนวรับและแนวต้านที่ 1,790 -1,815 เหรียญ ด้านกองทุน SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.24 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,011.6 ตัน ภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ ขายสุทธิ 6.15 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 35.94 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้น และจากหลายโพลสำรวจ คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 6-7 ครั้งภายในปีนี้ โดยที่ประธานเฟดสาขาบางรายมองว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 0.50% ในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ขณะที่อีซีบีเริ่มมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเริ่มปรับเปลี่ยนการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ถึง 2 ครั่ง จากเดิมที่คาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงเหนือบริเวณ 90 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเช้านี้เช้านี้ราคาน้ำมันอยู่ที่ 91.3 เหรียญ/บาร์เรล เป็นปัจจัยที่ทำให้ภาพโลจิสติกส์ทั้งหมดมีต้นทุนสูงขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ปรับขึ้นเป็นประวัติการณ์มาอยู่ที่ระดับ 1.907% ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันทองคำในทิศทางขาลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในรูปของสกุลเงินดอลลาร์มีการเคลื่อนไหวแตกต่างจากราคาทองคำสกุลเงินบาท ราคาทองคำสกุลดอลลาร์จะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways กว้างระหว่างแนวรับที่ 1,790 เหรียญและ 1,780 เหรียญ แนวต้านที่ 1,815 เหรียญและ 1,825 เหรียญ ตามลำดับ คาดว่ายังคงเคลื่อนตัวในกรอบนี้อีกสักระยะ ขณะที่ราคาทองคำไทย ในช่วงสัปาดาห์ที่ผ่านมาลดลงต่อเนื่อง มากกว่า 450 บาท/บาททองคำ โดยราคาทองไทยจะมีแนวรับสำคัญที่ 28,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 28,550 บาท/บาททองคำ ขณะที่ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาต่อเนื่อง เนื่องจากราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากค่าเงินบาทคือเงินบาทแข็งค่าขึ้น ดังนั้นกรอบการลงทุนในราคาทองคำสองสกุลเงินอาจมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน โดยค่าเงินบาทอาจจะแข็งค่าลงไปทดสอบบริเวณ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,790 เหรียญ และแนวต้าน 1,815 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยน่าจะเปิดปรับลง 50 บาท/บาททองคำ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
Gold Futures Series G22 จะมีแนวรับที่ระดับ 28,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 28,500บาท
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
คงต้องเน้นการเทรดตามกรอบการแกว่งตัว เนื่องจากยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนของราคา ตลาดมีความผันผวนของราคาตามข่าวและกระเเสคาดการณืที่ออมาค่อนข้างสูง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เน้นทำกำไรระยะสั้นลงซื้อขึ้นขายในกรอบแนวรับ-ต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เน้นทำกำไรระยะสั้นลงซื้อขึ้นขายในกรอบแนวรับ-ต้าน
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น