ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 9 ก.พ. ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐฯ และชาติมหาอำนาจเดินหน้าเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯ และชาติมหาอำนาจเดินหน้าเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านเพิ่มเติมโดยอิหร่านต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด เพิ่มเติมจากที่สหรัฐฯ ได้ยกเลิกคว่ำบาตรโครงการนิวเคลียร์พลเรือนของอิหร่านไปก่อนหน้า หากการเจรจาเป็นผลสำเร็จ จะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง
- รายงานประจำเดือน ก.พ. 65 ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 65 จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11.97 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.77 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า จากที่เดิมคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.64 ล้านบาร์เรลต่อวันในรายงานเดือนก่อนหน้า
+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ก.พ. 65 ปรับตัวลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 413.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 8 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 89.36 -1.96
เบรนท์ 90.78 -1.91
ดูไบ 90.56 -0.58
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 8 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 107.33 -0.63
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 104.54 -1.68
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 108.72 -0.85
น้ำมันเตา (3.5% S) 81.75 -0.91
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่ากว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียได้รับแรงกดดันการยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังคาดว่าปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลของประเทศอินเดียยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ความต้องการใช้ในภูมิภาคเอเชียเหนือมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ข่าวเด่น