ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 10 ก.พ. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. 61
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศน์ด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ก.พ. 65 ลดลงแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 โดยปรับลดลงกว่า 4.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 410.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 3.7 แสนบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและสภาวะตลาดตึงตึวต่อเนื่อง
+ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงตึงเครียด โดยเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางไปเยือนกรุงมอสโก เพื่อไกล่เกลี่ยหลังจากรัสเซียระดมกำลังประชิดชายแดนที่ติดกับยูเครน ท่ามกลางความกังวลว่ายุโรปกำลังเผชิญสภาวะความอันตรายด้านความมั่นคงมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
+ โจ ไบเดน ร่วมหารือกับซาอุดิอาระเบียเพื่อพิจารณาการเจรจาทางการทูตในข้อพิพาทเกี่ยวกับกบฏฮูติ และรักษาเสถียรภาพอุปทานน้ำมัน หลังก่อนหน้านี้กลุ่มกบฏฮูติได้ใช้โดรนในการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในกรุงอาบูดาบีในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 9 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 89.66 +0.30
เบรนท์ 91.55 +0.77
ดูไบ 89.56 -1.00
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 9 ก.พ.65 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 106.85 -0.48
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 102.94 -1.60
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 107.40 -1.32
น้ำมันเตา (3.5% S) 79.32 -2.43
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เพื่อเตรียมสำหรับการเดินทางช่วงรอมฎอน ในเดือนเม.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลในญี่ปุ่นที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดในภูมิภาคเอเชียเหนือเริ่มกลับมามีทิศทางฟื้นตัว หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลตรุษจีน
ข่าวเด่น