สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.80 จุด หวั่น FED ใช้ยาแรงสกัดเงินเฟ้อพุ่งต่อเนื่อง
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1690-1703 มีทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลง ถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่พุ่งต่อเนื่องสูงสุดใหม่รอบ 40 ปี สร้างความกังวล FED อาจเร่งเข้มนโยบายการเงินเร็วและแรงกว่าคาด แต่เงินนอกยังไหลเข้า ต่างชาติซื้อสุทธิ 5.83 พันลบ. 6 วันติด แต่ Short S50 Futures 2,145 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลงต่อ วิตกสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียบานปลาย
หุ้นโลกวันศุกร์ (11 ก.พ.) ดิ่งลงต่อ โดยแรงขายเข้ามาในช่วงเทรดครึ่งวันหลัง วิตกรัสเซียเตรียมบุกยูเครน หลังสหรัฐฯ แจ้งเตือนปชช.สหรัฐฯ เร่งอพยพออกจากยูเครน โดยระบุว่าอาจเกิดการโจมตีได้ทุกเมื่อ ด้วยสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียที่ตึงเครียดมากขึ้น หนุนราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 4% ปิดที่ 93.10 $/bbl สูงสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 2014 ขณะที่ราคาทองคำและราคาพันธบัตรปรับตัวขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย มอง SET มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ นอกจากจะถูกกดดันจากความกังวล FED อาจขึ้นดบ.เร็วและแรงกว่าคาด หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งขึ้นไม่หยุดแล้ว ยังถูกซ้ำเติมด้วยความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียที่ตึงเครียดขึ้น ทำให้นลท.แห่ “Risk-off” อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดใหม่รอบ 7 ปีกว่า คาดจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน-หุ้นที่เกี่ยวข้องช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้ แนวรับ 1690, 1680 แนวต้าน 1710, 1720 อนึ่ง UPA, UPA-W2 ติด Cash Balance 14 ก.พ.-25 มี.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะอ่อนตัวซื้อคืน-ตั้งรับ, พอร์ตลงทุนหาจังหวะสะสม
แนะหาจังหวะตลาดอ่อนตัวซื้อคืน-ตั้งรับ การเทรดดิ้งสั้นเล็งเป้า 1720-30 และ 1750 ตามลำดับ และใช้ Trailing Stop ที่ SET 1660 โดยหาก SET ปิดต่ำกว่า 1680 จะเป็นสัญญาณเชิงลบ / พอร์ตลงทุน เน้นการตั้งรับ-ไม่ไล่ราคา
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BAM – คาดกำไร 4Q21F โดดเด่นที่ 835 ลบ. +18% YoY, +45% QoQ หลัก ๆ จากการเก็บเงินสดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.9 พันลบ. อานิสงส์จากภาวะศก.ที่ปรับตัวดีขึ้นแม้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะสูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลก็ตาม, เราปรับประมาณการกำไรปี 21-23F ขึ้น 38%, 45% และ 50% ตามลำดับ จากแนวโน้มการเก็บหนี้เสียและการขาย NPA ที่ดีขึ้น รวมทั้งการปรับลดสมมติฐานการตั้งสำรองฯ ลง, รอข่าวดีการประกาศร่วมทุนกับแบงก์ตั้ง AMC ในเร็ว ๆ นี้, ยังแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐานใหม่ 25 บ. / เราปรับประมาณการกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ปี 22-23F โดยรวมขึ้น 1.2% และ 3.4% ตามลำดับ จากคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นน่าจะทำให้แบงก์ลดต้นทุนเครดิตลงได้ หุ้นเด่นของเรา คือ BBL, KBANK, SCB / หุ้นเก็งงบ Q4 และกำไรปีนี้ยังเติบโตดี Financial Sector – ASK, BAM, KGI, NCAP, SAK, TIDLOR / Real Sector – ASIAN, BANPU, BGRIM, BCH, BH, CPALL, CPF, DCC, DOHOME, FORTH, GLOBAL, HUMAN, ICHI, ITEL, JMART, NER, SABINA, SC, SMPC, TU, TWPC, XO, WICE, WHA, WHAUP / หุ้นปันผลน่าลงทุนช่วง Q1 BANK & FIN - KKP, TCAP, ASK, ASP, KGI PROP - AP, LALIN, LH, PREB, SC, SENA OTHERS - LST, TVO, NYT, SAT, SCCC, TPIPP, DIF, PROSPECT / หุ้นสู้เงินเฟ้อสูง คือ หุ้นน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์ - SPRC, IRPC, BCP, BANPU หุ้นรับอานิสงส์ดบ.ขาขึ้น - BBL, SCB, TTB, BLA / หุ้นที่มีสตอรี่เฉพาะตัวหนุน เข้าสู่ตลาดคริปโตฯ-ดิจิตอลแอสเซท – GULF, RS, SCB, XPG / รัฐส่งเสริมรถยนต์ EV – EA, NEX, GPSC, BCPG, SAT, STANLY / หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นการบริโภค ชอบ AEONTS, BJC, CPALL, CPN, COM7, DOHOME, GLOBAL การลงทุน ADVANC, CK, STEC, ROJNA, WHA ท่องเที่ยว AOT, MINT, CENTEL
• หุ้นเด่นสัปดาห์นี้(StockFocus)BANPU,TPIPL/ หุ้นเด่นก.พ.(SmartTactics) BANPU, COM7, CPALL, CPF, EGCO, KKP, SCB / หุ้นเด่นครึ่งปีแรก ADVANC, BDMS, DTAC, EGCO, KKP, SCB, SPALI, WHA
ข่าวเด่น