หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์ราคาน้ำมันวันที่ 12 เมษายน 2565
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังกลุ่มประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รวมถึงสหรัฐฯ กว่า 31 ประเทศ วางแผนปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และสมาชิก IEA กว่า 240 ล้านบาร์เรล ในระยะเวลา 6 เดือน หรือคิดเป็น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังต้องการชดเชยอุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียที่หายไปกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
-ความต้องการใช้น้ำมันในจีน ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกยังคงถูกกดดัน หลังยังคงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กว่า 25,000 รายต่อวัน ส่งผลให้ยังคงมีมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งกดดันอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันดิบให้ปรับตัวลดลงกว่า 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
– สกุลเงินดอลล่าร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก ส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ว่าอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับร้อยละ 2.25 – 2.5 ภายในสิ้นปี จากระดับร้อยละ 0.25 – 0.5 ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมัน จากสัญญาน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้น และมีความน่าสนใจลงทุนน้อยลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซินของจีน ไทย และอินเดีย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความต้องการใช้ในจีนที่ยังถูกกดดันจากมาตรการล็อคดาวน์
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียและไต้หวัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ท่ามกลางอุปสงค์ในเวียดนามที่ยังดีต่อเนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในประเทศ
ข่าวเด่น