บล.ไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์วันที่ 6 พ.ค.2565
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ "กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยกดดัน”
คาด SET ปรับตัวลง โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% ในการประชุมเดือนหน้า แม้ Powell ปฏิเสธไปก่อนหน้านี้ก็ตาม รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากตัวเลขต่างๆ ที่รายงานเข้ามาในช่วงนี้ โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ
ด้าน SET มีแนวรับถัดไปที่ 1635 และ 1625 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1655-1660 จุด
ประเด็นสำคัญ
-เงินเฟ้อไทย เม.ย. ขยายตัว 4.65%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ความเสี่ยงยังคงสูง
-การประชุม OPEC+ ยังคงมติเพิ่มกำลังการผลิต 4.32 แสนบาร์เรล/วันตามเดิมในเดือน มิ.ย. แม้สหรัฐและหลายชาตินำเข้าน้ำมันเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิตก็ตาม
-BoE ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.00% สูงสุดในรอบ 13 ปี หลังเงินเฟ้อสูงสุดรอบ 30 ปี
กลยุทธ์การลงทุน
ความเสี่ยงภายนอกยังเป็นปัจจัยหลักกดดันการฟื้นตัวของ SET และมองตลาดมี Downside จากการปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่ทรงตัวสูง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy ไม่ไล่ราคา” ในหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ
ล็อคเป้าลงทุน
Core Portfolio : คงน้ำหนักพอร์ตไว้ที่ 50% ในหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มโตดี และ/หรือ มีผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอกอย่าง KBANK AMATA LH GULF ADVANC โดยถ้ามีอยู่หุ้นแนะนำให้ Let profit Run ต่อไป แต่หากไม่มีหุ้นแนะนำรอจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
Weekly Portfolio : เก็งกำไร 25% ใน 1) หุ้นเชิงรับ/หลุมหลบภัยที่คาดให้ผลตอบแทนดีในช่วง Sell in May กลุ่มเครื่องดื่ม CBG OSP กลุ่มท่องเที่ยว AOT AWC กลุ่มการแพทย์ BDMS และกลุ่มค้าปลีก BJC CRC และ 2) หุ้นที่คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโตดี YoY เลือก ZEN AP GFPT TOP BCP
ช่วงสั้นเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน 1) หุ้นกลุ่มขนส่ง, ยานยนต์, วัสดุก่อสร้าง, โรงไฟฟ้า, อสังหาฯ, บรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีโอกาสถูก Downgrade Earnings หลังประกาศงบ 1Q65 จากผลกระทบต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และ 2) หุ้นที่มักจะเห็นแรงขายเกิดขึ้นในช่วง Sell in May อย่างกลุ่มธนาคาร, วัสดุก่อสร้าง,
อิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นขนาดเล็ก
Daily Focus
BDMS ซึ่งทนทานความผันผวนของตลาดได้ดีและได้อานิสงส์คลายข้อจำกัดการเดินทางทำให้ผู้ป่วยต่างชาติฟื้นตัวดีขึ้น โดย 1Q65 คาดกำไรปกติทำนิวไฮที่ 2.96 พันลบ. เพิ่มขึ้น 2 เท่า YoY และปี 65 คาดเติบโต 21%YoY
GULF ปี 65 คาดกำไรโต 44%YoY จากรับรู้กำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH อีกทั้งแผนร่วมทุน Binance.US เพื่อเข้าสู่ธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหนุนโอกาสเติบโตของกำไรระยะยาว
บทวิเคราะห์วันนี้
กลุ่มปิโตรเคมี – คาดผลประกอบการ 1Q65 มีทิศทางคละเคล้ากัน
BCH – พรีวิว 1Q65 ปรับเรทติ้งลงสู่ NEUTRAL เพราะกำไรมีแนวโน้มชะลอตัว
HMPRO – อยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว
LPN – 1Q65: กำไรเพิ่มขึ้นแรง YoY และ QoQ
เกาะกระแสข่าวเศรษฐกิจ
3 พ.ค.
JP – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.
EU – ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค., อัตราการว่างงานเดือนมี.ค.
US – ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS
Event: ประชุมเฟด
4 พ.ค.
US - ดัชนี PMI ภาคบริการโดย ISM เดือนเม.ย.,ดุลการค้าเดือนมี.ค., ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์, การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรโดย ADP เดือนเม.ย.
EU/JP - ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. (รายงานครั้งสุดท้าย)
EU – ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.
Event: ประชุมเฟด
5 พ.ค.
US – จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์
6 พ.ค.
JP – การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมี.ค.
US - ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง, การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนเม.ย.
ข่าวเด่น