ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มทรงตัวแบบไร้ทิศทางบริเวณ 1,870 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,909 เหรียญ ภาพรวมราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยมีนักวิเคราะห์บางรายมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า เพื่อจะลดวิกฤตเงินเฟ้อให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการกดดันทิศทางราคาทองคำ ขณะที่ภาวะสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียส่งผลให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรระยะยาวซึ่งกระทบต่อความผันผวนของราคาน้ำมันและแก๊ส รวมถึงเศรษฐกิจของยุโรปเช่นกัน โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ ได้แก่ Unemployment Rate ออกมาตามคาดการณ์ ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร Non-Farm Employment Change ออกมาเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาด ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 2.98 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,082 ตัน ดัชนีดอลลาร์ยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ในวันศุกร์ โดยเปิดที่ระดับ 103.6 จุด และทำจุดสูงสุดที่ 104.09 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 103.96 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่าโดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.44 บาท/ดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังแกว่งตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง ทำให้ภาพแนวโน้มหลักของราคาทองคำเป็นทิศทางขาลง และยังคงมีความผันผวนจากแรงกดดันทิศทางราคาอยู่สูง วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,855 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,895 เหรียญ สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,855 เหรียญ และแนวต้าน 1,895 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยเช้านี้คาดว่าจะทรงตัวเท่าเดิม โดยจะมีแนวรับที่ 30,350 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,750 บาท/บาททองคำ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
Gold Futures Series M22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 31,000 บาท
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบหรือตามแนวโน้มทิศทาง Sideways Down ลงซื้อขึ้นขายยังเน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับ เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น