ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.2565) ร่วงลงแรงทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 32,245.70 จุด ร่วง 653.67 จุด หรือลดลง 1.99%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,991.24 จุด ลบ 132.10 จุด หรือลดลง 3.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,623.25 จุด ลบ 521.41 จุด หรือลดลง 4.29%
เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นอีกถึง 0.75% ในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะถดถอยลง โดย FedWatch Tool ของ CME Group รายงานว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 โดยล่าสุดทางการจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 14.7%
โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ และจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนเม.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB),จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ข่าวเด่น