ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.2565) ปรับขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 30,668.53 จุด บวก 303.70 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 3,789.99 จุด บวก 54.51 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 11,099.15 จุด บวก 270.81 จุด หรือเพิ่มขึ้น 2.50%
โดยดัชนีดาวโจนส์ กลับมาปิดบวกเป็นครั้งแรกของสัปดาห์นี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมนโยบายการเงินที่มีขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994
ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้คือการให้บรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ในระยะยาว ซึ่งเฟดมีแผนที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในสิ้นปีนี้
จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ได้ทำให้หุ้นทุกกลุ่มปรับราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยราคาหุ้นของ แบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.88% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 2.88% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่ม 1.18% เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันโดยราคาหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.97% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส เพิ่มขึ้น 3.43%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยังได้เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.65 ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือน เม.ย.65
ข่าวเด่น