ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.2565) พุ่งขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 30,530.25 จุด พุ่งขึ้น 641.47 จุด หรือ +2.15%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,764.79 จุด เพิ่มขึ้น 89.95 จุด หรือ +2.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,069.30 จุด พุ่งขึ้น 270.95 จุด หรือ + 2.51% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ที่มีทุนจดทะเบียนสูง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 5.14% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัว หุ้นไดมอนแบ็ค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 8.17% หุ้นชลัมเบอร์เจอร์ พุ่งขึ้น 6.01% หุ้นฟิลลิปส์ 66 ดีดตัวขึ้น 6.04% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 5.87% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 4.22% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 6.22% ส่วนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่พุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.32% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.46% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 3.28% หุ้นเทสลา ทะยานขึ้น 9.35% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 4.11%
นอกจากนี้นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิ.ย. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย.
และนักลงทุนยังจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยล่าสุดทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เตือนว่าขณะนี้มีโอกาส 30% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 15% โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
.jpg)
ข่าวเด่น