ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.2565) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 31,029.31 จุด บวก 82.32 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 0.27%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,818.83 จุดลบ 2.72 จุด หรือลดลง 0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,177.89 จุด ลบ 3.65 จุด หรือลดลง 0.03%
หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม
โดยถ้อยแถลงของนายพาวเวลระบุว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ดังนั้นเราจะป้องกันไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อต่ำกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อสูง โดยในระยะสั้น เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”
หลังถ้อยแถลงของนายพาวเวล ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยล่าสุดทีมนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถดถอยในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการหดตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และการที่เฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 1/2565 เมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า GDP หดตัว 1.6% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะหดตัว 1.5% ในไตรมาส 1 ทั้งนี้ หากตัวเลข GDP สหรัฐหดตัวต่อไปในไตรมาส 2/2565 ก็จะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ข่าวเด่น