ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืน(19 ก.ค.65) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 31,827.05 จุด เพิ่มขึ้น 754.44 จุด หรือ +2.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 3,936.69 จุด เพิ่มขึ้น 105.84 จุด หรือ +2.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 11,713.15 จุด เพิ่มขึ้น 353.10 จุด หรือ +3.11%
โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะบริษัทฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯที่ผลกำไรเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าบริษัทจะมีรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากความต้องการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ประจำไตรมาสที่ 2/2022 ทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้นโดยราคาโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 5.46% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 2.48% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 3.43% และซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 4.11%
ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยราคาหุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.67% หุ้นอินเทลเพิ่มขึ้น 3.90% และราคาหุ้นไมโครซอฟท์ที่เพิ่มขึ้น 2.08% มีเพียงราคาหุ้นของ IBM ที่ลดลง 5.25% หลังผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2022 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าสนใจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผย ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านประจำเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.559 ล้านยูนิต ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.580 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และราคาวัสดุก่อสร้าง รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ข่าวเด่น