ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (27 ก.ค.65) พุ่งขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 32,197.59 จุด เพิ่มขึ้น 436.05 จุด หรือ +1.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,023.61 จุด เพิ่มขึ้น 102.56 จุด หรือ +2.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,032.42 จุด เพิ่มขึ้น 469.85 จุด หรือ +4.06%
เนื่องจากตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ 12-0 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมวันพุธ (27 ก.ค.)
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่เข้มงวดที่สุดของเฟด นับตั้งแต่ที่เฟดกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือสำคัญด้านนโยบายการเงินในช่วงทศวรรษ 1990 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.25-2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561 โดยเฟดพยายามที่จะสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ขณะที่การแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในการแถลงข่าวนั้น ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า อัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะชะลอลง
นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่ง 6.7% หลังคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในปีงบการเงินนี้โดยได้แรงหนุนจากความต้องการบริการด้านระบบคลาวด์
หุ้นอัลฟาเบท พุ่ง 7.7% หลังเปิดเผยยอดขายโฆษณาบนกูเกิลที่ดีเกินคาด ซึ่งคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดโฆษณา
หุ้นที-โมบาย ยูเอส อิงค์ พุ่งขึ้น 5.2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจำนวนผู้ใช้บริการเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ และคาดการณ์ผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาดa
ข่าวเด่น