ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.2565) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 32,726.82 จุด ร่วงลง 85.68 จุด หรือลดลง 0.26%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.94 จุดลบ 3.23 จุด หรือลดลง 0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,720.58 จุด บวก 52.42 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.41%
โดยตลาดหุ้นดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 4.21% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.58% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4.08%
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.42% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ดีดขึ้น 1.05% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.19% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.40% หุ้นคอยน์เบส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ทะยานขึ้น 10.01% หลังคอยน์เบสประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับริษัทแบล็คร็อค เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบันในการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งให้บริการรับฝากคริปโทฯ
ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าระดับ 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 260,000 ราย ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 6.2% สู่ระดับ 7.961 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ส่วนการนำเข้าลดลง 0.3% สู่ระดับ 3.404 แสนล้านดอลลาร์ และการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 2.608 แสนล้านดอลลาร์
.jpg)
ข่าวเด่น