ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ค่าเงินบาทเปิดตลาด (17 ส.ค.65) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์


 
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (17 ส.ค.2565) ที่ระดับ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.47 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า รายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ Walmart และ Home Depot ที่ออกมาดีกว่าคาดนั้น ได้ช่วยหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ โดยรวมดีขึ้นและบรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงกล้าที่จะเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง ส่งผลให้ดัชนี Dow Jones ปิดตลาด +0.71% ส่วน S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +0.19% อย่างไรก็ดี รายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกที่ดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มการใช้จ่ายของครัวเรือนในสหรัฐฯและคลายกังวลแนวโน้มการชะลอตัวลงหนักของเศรษฐกิจ ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 2.85% กดดันให้ หุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวลดลง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลดลง -0.19%

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX600 ยังคงปรับตัวขึ้นราว +0.16% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ดี ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวลงหนักและเสี่ยงเข้าสู่สภาวะถดถอย ซึ่งสะท้อนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) เดือนสิงหาคม ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ -55.3 จุด แย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยซื้อหุ้นในกลุ่ม Defensive อาทิ หุ้นกลุ่มเทเลคอม (Telefonica +2.7%) และกลุ่มการแพทย์ (Sanofi +1.7%) มากขึ้น

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ได้ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 106.4 จุด หลังผู้เล่นในตลาดลดความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยลงบ้าง จากความหวังแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจไม่ได้ชะลอตัวลงหนักหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของผู้เล่นในตลาดยังสอดคล้องกับการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) สู่ระดับ 134.3 เยนต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ แม้เงินดอลลาร์จะย่อตัวลงมาบ้าง แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนกรกฎาคม เพื่อประเมินแนวโน้มการบริโภคของผู้คน ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการปรับนโยบายการเงินของเฟดได้ โดยตลาดมองว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัวได้ราว +0.1%m/m หรือ +0.3%m/m สำหรับยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้างและอาหาร ซึ่งการขยายตัวต่อเนื่องของยอดค้าปลีกนั้นหนุนโดย ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลงในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้จ่ายของครัวเรือนยังดูสดใส สะท้อนจากรายงานยอดขาย Amazon Prime ระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคมที่แข็งแกร่ง และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด (ซึ่งจะทราบในช่วงเวลา 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันพฤหัสฯ) เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด หลังที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ โดยรวมเริ่มชะลอตัวลงมากขึ้นจากช่วงต้นปี โดยเฉพาะเงินเฟ้อทั่วไป (CPI)

ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอังกฤษ (CPI) เดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 9.8% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ก็เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 6.0% เช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง จะส่งผลให้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ได้ในการประชุมเดือนกันยายน

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่เดินหน้าซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังความผันผวนของเงินบาทที่อาจมาจากเงินดอลลาร์ได้ในช่วงระหว่างตลาดรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ รวมถึงช่วงตลาดรับรู้รายงานการประชุม FOMC ล่าสุด ซึ่งเงินดอลลาร์อาจพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากตลาดกลับมามองว่าเฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนกันยายน จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่ได้ชะลอตัวลงจนน่ากังวล แต่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัญหาสำคัญของเฟดที่ต้องแก้ไข

ทั้งนี้ เรามองว่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 35.10-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนทิศทางของตลาดการเงิน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.45 บาท/ดอลลาร์
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ส.ค. 2565 เวลา : 10:27:42

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:03 am