ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.65) ปรับเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 31,774.52 จุด เพิ่มขึ้น 193.24 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 4,006.18 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด หรือ +0.66% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับ 11,862.13 จุด เพิ่มขึ้น 70.23 จุด หรือ +0.60%
ดัชนีดาวโจนส์ กลับมาปิดตลาดในแดนบวก โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลธ์แคร์ เพื่อทำกำไร หลังจากที่ช่วงแรกของการซื้อขาย ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับลดลง เนื่องจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันคาโต (Cato Institute) ว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อ และยืนยันว่าจะยังไม่ยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
จากความเคลื่อนไหวของนักลงทุนดังกล่าวได้ ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาหุ้นของ หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 2.33% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.82% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.61% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.19% เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยราคาหุ้นรีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล ขึ้น 18.85% และราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ เพิ่มขึ้น 1.19%
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าสนใจกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว (28 ส.ค. - 3 ก.ย.) ที่ระดับ 222,000 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 228,000 ราย และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 240,000 ราย
นอกจากนี้ ต้องจับตาไปที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯประจำเดือน ส.ค.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.ย. ซึ่งจะเปิดตัวชี้วัดสำคัญว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อัตราใดในวันที่ 21 ก.ย.นี้
.jpg)
ข่าวเด่น