ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.65) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 29,239.19 จุด เพิ่มขึ้น 36.31 จุด หรือ +0.12%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,588.84 จุด ลดลง 23.55 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,426.19 จุด ลดลง 115.91 จุด หรือ -1.10%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.65) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 29,239.19 จุด เพิ่มขึ้น 36.31 จุด หรือ +0.12%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,588.84 จุด ลดลง 23.55 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,426.19 จุด ลดลง 115.91 จุด หรือ -1.10%
โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ได้แก่ การที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน วิกฤตค่าครองชีพ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะทำให้เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และนิเวศวิทยา
นอกจากนี้ IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 1.6% และ 1% ตามลำดับ โดยได้รับผลกระทบจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมกับปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้และปีหน้า สู่ระดับ 3.2% และ 4.4% ตามลำดับ โดยถูกกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด และวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกระทบจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณยุติการพยุงตลาดพันธบัตร โดยนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE สั่งการให้บรรดาผู้จัดการกองทุนบำนาญเร่งปรับงบดุลบัญชีให้กลับมามีความสมดุลภายในวันศุกร์นี้ (14 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ BoE จะยุติโครงการสนับสนุนตลาดพันธบัตร
คำสั่งดังกล่าวของนายเบลีย์มีขึ้นหลังจาก BoE เข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรอีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยประกาศขยายการดำเนินการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินให้ครอบคลุมพันธบัตรที่อ้างอิงกับดัชนี (Index-Linked Gilt) ตั้งแต่วันที่ 11-14 ต.ค. ทั้งนี้ พันธบัตรที่อ้างอิงกับดัชนีหมายถึงพันธบัตรที่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือครองพันธบัตรโดยอิงกับดัชนีราคาค้าปลีกของอังกฤษ
ข่าวเด่น