ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ค่าเงินบาทเปิดตลาด (19 ต.ค.65) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 38.09 บาทต่อดอลลาร์


 
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (19 ต.ค.65) ที่ระดับ 38.09 บาทต่อดอลลาร์
“แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 38.12 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในบรรยากาศเปิดรับ (Risk-On) ความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบรรดาบริษัทจดทะเบียน อาทิ Goldman Sachs, Lockheed Martin นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดยังคงกลับเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ และ หุ้นสไตล์ Growth อยู่บ้าง หลังจากบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 4.00% ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +1.14% ส่วนดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ก็ปิดตลาดราว +0.90%

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ของยุโรป เดินหน้าปรับตัวขึ้น +0.34% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนโดยรวมที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงความปั่นป่วนของตลาดบอนด์ที่ลดลง หลังรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจยกเลิกแผนการปรับลดภาษี อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรปยังมีโอกาสถูกจำกัดโดย ความกังวลแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งต้องจับตาว่า ผู้เล่นในตลาดจะใช้จังหวะการรีบาวด์ของตลาดหุ้นยุโรปในการทยอยลดสถานะการถือครองหรือไม่

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวลดลงใกล้ระดับ 111.95 จุด หลังผู้เล่นในตลาดยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงและเลือกที่จะทยอยลดการถือครองเงินดอลลาร์ลงบ้าง อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงบ้าง แต่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ยังทรงตัวใกล้ระดับ 4.00% ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดและแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ก็ยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 1,662 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นโซนแนวต้านระยะสั้น และย่อตัวลงใกล้โซนแนวรับแถว 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ในเชิงเทคนิคัล ราคาทองคำยังไม่สูญเสียโมเมนตัมขาขึ้นไปโดยสิ้นเชิง ทำให้ผู้เล่นบางส่วนอาจยังคงเลือกที่จะเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวอาจกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้บ้าง

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานสภาวะเศรษฐกิจโดยเฟดสาขาต่างๆ หรือ Fed Beige Book (เฟดเปิดเผยรายงานในช่วงเวลา 01.00 น. ของเช้าวันพฤหัสฯ ตามเวลาในประเทศไทย) ที่อาจชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเริ่มชะลอลงหรือทรงตัว ซึ่งจะสะท้อนโมเมนตัมเศรษฐกิจที่แย่ลงชัดเจนนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 อย่างไรก็ดี ตลาดมองว่า ภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจะยังไม่สามารถเปลี่ยนใจบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในการประชุมที่เหลือของปีนี้ได้ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อและเงินเฟ้อคาดการณ์ล่าสุดนั้นออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดมองว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.75% ในการประชุมอีกสองครั้งที่เหลือในปีนี้

นอกจากนี้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งอาจย้ำมุมมองการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดตามที่ตลาดคาดการณ์ได้ ส่วนรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนยังคงอยู่ในความสนใจของตลาดและเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดอาจช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ (และช่วยชะลอแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท) แต่ทว่า เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว แรงซื้อสกุลเงินต่างประเทศ อาทิ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) จากฝั่งผู้ประกอบการ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในฝั่งตลาดบอนด์ที่ยังไหลออกสุทธิ (นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบอนด์ระยะยาวไปแล้วกว่า 5.8 พันล้านบาท ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา) ทำให้เราคงมุมมองเดิมว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจมีอยู่อย่างจำกัดในระยะสั้นนี้ โดยเงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าหลุดโซนแนวรับ 37.80 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ จนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยอย่างชัดเจน อาทิ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง หรือ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของหลายปัจจัย เราคงแนะนำให้ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.90-38.15 บาท/ดอลลาร์
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ต.ค. 2565 เวลา : 09:49:26

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:44 pm