ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.65) เพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ที่ 30,523.80 จุด เพิ่มขึ้น 337.98 จุด หรือ +1.12%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,719.98 จุด เพิ่มขึ้น 42.03 จุด หรือ +1.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,772.40 จุด เพิ่มขึ้น 96.60 จุด หรือ +0.90%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ โกลด์แมน แซคส์ ที่เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 8.25 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.69 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.198 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.141 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึง บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 2.55 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.48 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 2.379 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้วที่ระดับ 2.334 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ดังกล่าว ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดย หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 2.55% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 3.73% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.98%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดโดยรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.1% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟดในวันนี้ โดย Beige Book เป็นรายงานซึ่งจะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ Beige Book ยังรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง
ข่าวเด่น