ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.65) ปรับตัวพุ่งขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 34,098.10 จุด พุ่งขึ้น 397.82 จุด หรือ +1.18%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,003.58 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด หรือ +1.36% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,174.41 จุด เพิ่มขึ้น 149.90 จุด หรือ +1.36% เนื่องจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐ “เบสท์บาย” ที่เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสสาม ที่ 1.38 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.03 ดอลลาร์
ซึ่งการประกาศผลประกอบการที่สดใสดังกล่าว ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า กลุ่มบริษัทค้าปลีกของสหรัฐจะสามารถรับมือกับวิกฤตเงินเฟ้อได้
โดยหุ้นเบสท์บาย ทะยานขึ้น 12.71% และช่วยหนุนหุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ พุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นโลว์ส พุ่งขึ้น 1.99% หุ้นวอลมาร์ท ดีดตัวขึ้น 0.34% หุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.05% หุ้นนอร์ดสตรอม พุ่งขึ้น 6.56% หุ้นโคห์ลส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 4.2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังซาอุดีอาระเบียยืนยันไม่ได้หารือกับสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 2.57% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.68% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.64%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (23 พ.ย.) เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข่าวเด่น