ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
ราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังสำนักงานสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ประกาศจะเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในจีน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 40,000 รายในวันที่ 27 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ทำให้จีนยังคงต้องใช้มาตรการคุมเข้มตามนโยบาย zero COVID ที่จีนใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ส่งผลให้เกิดการประท้วงของผู้คนต่อนโยบายดังกล่าว กดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 25 พ.ย. 65 ปรับลดลง 7.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นราว 2.9 ล้านบาร์เรล ด้านสต๊อกน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรล
ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคในวันที่ 4 ธ.ค. 65 นี้ โดยตลาดคาดว่าทางกลุ่มอาจมีมติปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม เพื่อรักษาสมดุลของตลาด และพยุงราคาน้ำมันที่ถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนและภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่ทางกลุ่มยืนยันก่อนหน้านี้ว่ายังคงแผนเดิมในการปรับลดกำลังการผลิตที่ 2.0 ล้านบาร์เรลของมติการประชุมที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากโควตาการส่งออกของจีน ขณะที่ตลาดได้รับแรงสนับสนุน จากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. 65
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากโควตาการส่งออกของจีน ขณะที่ค่าขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกดดันการซื้อขายน้ำมันดีเซลระหว่างภูมิภาค
ข่าวเด่น