ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.65) ร่วงลงทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 482.78 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 33,947.10 จุด,ดัชนี S&P 500 ลดลง 72.86 จุด หรือ 1.79% มาอยู่ที่ 3,998.84 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 221.56 จุด หรือ 1.93% ปิดที่ 11,239.94 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปและเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการและตัวเลขการจ้างงานที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนพ.ย.
โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน พุ่งขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.6% โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนัก 89% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะถึงจุดพีกที่ระดับ 4.984% ในเดือนพ.ค. 2566
ข่าวเด่น