ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.66) ร่วงลงทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 33,717.09 จุด ร่วงลง 260.99 จุด หรือ -0.77%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,017.77 จุด ลดลง 52.79 จุด หรือ -1.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,393.81 จุด ดิ่งลง 227.90 จุด หรือ -1.96% เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นบริษัทรายใหญ่ ซึ่งหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 2.29% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.94% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคขยับขึ้นเพียง 0.07%
หุ้นเทคโนโลยีที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.2% หุ้นแอปเปิ้ล ร่วงลง 2.01% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.45% หุ้นเมตา แพลตฟอร์ม ร่วงลง 3.08% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ดิ่งลง 3.91%
สัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฟดจะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.จะเป็นการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนคาดการณ์ ECB และ BOE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
สัปดาห์นี้นักลงทุนยังจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
.jpg)
ข่าวเด่น