ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.66) ร่วงลงทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 33,699.88 จุด 249.13 จุด หรือ -0.73%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,081.50 จุด ลดลง 36.36 จุด หรือ -0.88% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,789.58 จุด ลดลง 120.94 จุด หรือ -1.02% เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีเป็นปัจจัยกดดันตลาด และบดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างดิสนีย์และเป๊ปซี่โค
โดยช่วงแรกดัชนีพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง หลังบริษัทเป๊ปซี่โคเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2565 ที่ระดับ 1.67 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.65 ดอลลาร์ และมีรายได้อยู่ที่ 2.80 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่ตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านบริษัทดิสนีย์เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2566 อยู่ที่ 99 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 78 เซนต์ และมีรายได้อยู่ที่ 2.351 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.337 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ จำนวนสมาชิกที่ใช้บริการสตรีมมิงดิสนีย์พลัสทั่วโลกอยู่ที่ 161.8 ล้านคน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 161.1 ล้านคน
แต่เวลาต่อมาตลาดร่วงลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีพุ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการชำระหนี้ของผู้บริโภคและภาคเอกชน
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล หลังมีรายงานว่า Bard A.I. ตอบคำถามผิดกลางงานอีเวนต์ที่อัลฟาเบทจัดขึ้นทางออนไลน์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวังต่อประสิทธิภาพของ Bard A.I. ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่อัลฟาเบทพัฒนาขึ้นเพื่อท้าชนแชตบอตของค่ายไมโครซอฟท์ โดยหุ้นอัลฟาเบทดิ่งลง 4.39%
ส่วนหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส ดิ่งลง 3% ห้นแอปเปิ้ล ลดลง 0.69% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.17% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.81% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.18%
ข่าวเด่น