ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (29 มี.ค.66) พุ่ง 323.35 จุด รับแนวโน้มผลประกอบการสดใส


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.66) ดัชนีพุ่งขึ้นทุกตลาด โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,717.60 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.00%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,027.81 จุด เพิ่มขึ้น 56.54 จุด หรือ +1.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,926.24 จุด พุ่งขึ้น 210.16 จุด หรือ +1.79% หลังบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทไมครอนเทคโนโลยี เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 7.2% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX semiconductor index) พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ลดลงในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท พร้อมกับเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสในปีงบการเงิน 2568 เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง

ขณะที่ หุ้นลูลูเลมอน แอธเลติกา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องแต่งกายกีฬาชั้นนำ ทะยานขึ้น 12.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้รายปีที่แข็งแกร่ง

โดย คิง ลิป นักวิเคราะห์จากบริษัท BakerAvenue Wealth Management ในซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ผลประกอบการที่สดใสของทั้งสองบริษัทถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลาย หากบริษัทเหล่านี้มีมุมมองที่เป็นบวกในแง่ของยอดสั่งซื้อ นั่นหมายความว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี

แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของไมครอน เทคโนโลยี ช่วยหนุนหุ้นบริษัทผลิตชิปและบริษัทเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2.17% หุ้นเอเอ็มดี ปรับตัวขึ้น 1.6% หุ้นอินเทล ทะยานขึ้น 7.61% หุ้นไอบีเอ็ม บวก 0.29% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 1.92% หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 1.98% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.33%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.59% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวก 0.72% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 0.20% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.6%

นักลงทุนยังคงจับตาแนวทางการใช้กฎระเบียบในภาคธนาคารของสหรัฐหลังจากการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) โดยสภาคองเกรสได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการกำกับดูแลภาคธนาคารให้เข้าอธิบายว่าเพราะเหตุใด SVB และ SB จึงล้มละลายในช่วงต้นเดือนมี.ค. โดยนายไมเคิล บาร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ต่างก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การล้มละลายของธนาคารทั้ง 2 แห่งเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของทีมผู้บริหาร และเสนอว่าธนาคารที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 1 แสนล้านดอลลาร์ขึ้นไปอาจจำเป็นต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบใหม่ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพราะสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มี.ค. 2566 เวลา : 09:58:20

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:00 am