ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.66) ร่วงลง โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,799.92 จุด ลดลง 255.59 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,115.24 จุด ลดลง 30.34 จุด หรือ -0.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,484.16 จุด ลดลง 76.08 จุด หรือ -0.61% เนื่องจากนักลงทุนกังวลการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐที่ยังไม่มีความคืบหน้าและใกล้กำหนดวันเส้นตายวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะส่งผลต่อการผิดนัดชำระหนี้และทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงอีก
โดยการเจรจาล่าสุดทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐบอกปัดข้อเรียกร้องของนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการให้ปรับลดงบประมาณรายจ่าย ขณะที่นายแมคคาร์ธีก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของปธน.ไบเดนที่ต้องการให้มีการเพิ่มรายได้ของรัฐบาลด้วยการปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากคนร่ำรวย
อย่างไรก็ดี ตลาดลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความจำเป็นในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเริ่มมีน้อยลง โดยกรรมการหลายคนกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 13-14 มิ.ย.
ข่าวเด่น