(55).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,908.27 จุด ลดลง 134.51 จุด หรือ -0.41%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,179.83 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.61% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,935.28 จุด ลดลง 82.14 จุด หรือ -0.63% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งทำให้ตลาดกังวลว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ของสภาคองเกรส ซึ่งสภาคองเกรสสหรัฐจะทำการลงมติร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางการคลัง” (Fiscal Responsibility Act) ในวันนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 07.30 น.ตามเวลาไทย โดยหากสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป โดยกระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ข่าวเด่น