ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ค่าเงินบาทเปิดตลาด (22 มิย.66) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์


 

ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 มิย.66) ที่ระดับ  34.79 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.84 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง ทดสอบโซนแนวต้าน 34.90 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงใกล้แนวรับ ก่อนที่เงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาอ่อนค่าลง หลังตลาดมองว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ไม่ได้มีความแตกต่างจากสิ่งที่ได้กล่าวในช่วงการประชุมเฟดมากนัก
 
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth (Tesla -5.5%, Alphabet -2.1%) หลังผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่า เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อได้ จากถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสที่ยังคงย้ำจุดยืน เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ลดลง -1.21% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.52%
 
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงต่อเนื่อง -0.50% หลังผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า บรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ จากรายงานอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้กดดันให้ หุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ฝั่งยุโรปปรับตัวลดลง เช่นเดียวกันกับในฝั่งสหรัฐฯ (Adyen -1.7%, ASML -1.6%) อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน (BP +2.2%, Shell +1.8%) ตามการรีบาวด์ขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
 
ในส่วนตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลดลงใกล้ระดับ 102 จุด หลังผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสที่ไม่ได้แตกต่างจากการแถลงหลังประชุมเฟด เนื่องจากประธานเฟดยังคงเน้นย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งตลาดก็ได้รับรู้มุมมองดังกล่าวไปมากแล้ว ส่วนในฝั่งราคาทองคำ แม้ว่าราคาทองคำจะมีจังหวะปรับตัวลงแรงทดสอบโซนแนวรับ แต่การปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) รีบาวด์ขึ้นสู่โซน 1,940-1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ซึ่งเรามองว่าผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของทองคำได้ และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา
 
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยเราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนพฤษภาคมที่ออกมาสูงถึง 8.7% (สูงกว่าที่ตลาดคาดและเป็นการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ) จะส่งผลให้ BOE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย +25bps สู่ระดับ 4.75% พร้อมกับส่งสัญญาณชัดเจนว่า การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องยังมีความจำเป็น (ผู้เล่นในตลาดคาดว่า BOE อาจขึ้นดอกเบี้ยจนถึงระดับ 5.75%)
 
นอกจากนี้ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและการว่างงานต่อเนื่อง (Initial & Continuing Jobless Claims) ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงาน พร้อมทั้งจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะการแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2
 
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้บ้าง แต่ทว่า เรายังคงมองว่า เงินบาทอาจไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า ในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB และขายเงินดอลลาร์ สำหรับผู้ส่งออกบางส่วน 
 
นอกจากนี้ ในช่วงเย็นราว 18.00 น. เงินบาทก็มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นได้ หาก BOE ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า พร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกหลายครั้ง จนกว่าจะสามารถคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ ซึ่งภาพดังกล่าว จะช่วยหนุนให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ทยอยแข็งค่าขึ้น กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้บ้าง แต่ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นมาก โดยเราประเมินว่า แนวรับในระยะสั้นอาจอยู่ในโซน 34.60-34.70 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะฝั่งผู้นำเข้าที่จะเริ่มทยอยซื้อเงินดอลลาร์ สำหรับธุรกรรมช่วงปลายเดือน รวมถึงแรงซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงนี้
 
นอกจากนี้ ทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มเป็นฝั่งขายสุทธิ โดยเฉพาะในฝั่งหุ้น หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากที่รีบาวด์ขึ้นชัดเจนในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติอาจทยอยกลับเข้าซื้อบอนด์ไทยมากขึ้นได้ หลังจากที่บอนด์ยีลด์ได้ปรับตัวขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา และเราก็เริ่มเห็นสัญญาณการกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทยของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
 
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
 
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.70-34.90 บาท/ดอลลาร์

บันทึกโดย : วันที่ : 22 มิ.ย. 2566 เวลา : 11:09:09

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 4:14 pm