ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ค่าเงินบาทเปิดตลาด (4 ก.ค.66) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์


 
ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 ก.ค.66) ที่ระดับ  35.00 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.22 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นและเคลื่อนไหวในกรอบ 34.95-35.25 บาทต่อดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ หลังดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแย่กว่าคาด นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากความกังวลปัญหาการเมืองไทยต่อประเด็นการเลือกประธานสภาฯ ที่เริ่มคลี่คลายลง 

แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน แต่ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ต่างยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร (BofA +1.8%, Wells Fargo +1.7%) หลังผลการทดสอบ Stress Test ออกมาเป็นที่น่าพอใจและทำให้บรรดาธนาคารดังกล่าวประกาศจ่ายปันผล  นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นแรงของหุ้น Tesla +6.9% ตามรายงานยอดส่งมอบรถยนต์ที่โตกว่า +10%q/q (+83%y/y) อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ ใหญ่ (Apple -0.8%, Microsoft -0.8%) จากความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.12% 
 
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาปรับตัวลง -0.21% กดดันโดยการปรับตัวลงแรงของหุ้นกลุ่ม Healthcare นำโดย AstraZeneca -8.0% หลังนักวิเคราะห์ประเมินว่าบริษัทอาจได้รับอานิสงส์จากยารักษามะเร็งปอดน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (BP +2.7%) และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (Rio Tinto +2.1%) ท่ามกลางความหวังว่า ทางการจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก กดดันโดยทั้งบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่เปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่องและรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลดลงใกล้ระดับ 103 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 102.9-103.2 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา) ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด แต่ทว่า การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ก็มีส่วนช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) รีบาวด์ขึ้นเข้าใกล้ระดับ 1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนเผชิญแรงขายทำกำไรและย่อตัวลงมาใกล้ระดับ 1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเรามองว่า โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำดังกล่าว ก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในคืนที่ผ่านมา 

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก และอาจมีเพียงผลการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่อาจมีความน่าสนใจ โดยผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า RBA จะกลับมาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.10% ตามภาพเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอมากขึ้น 

ทั้งนี้ เรามองว่า ไฮไลท์สำคัญที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด คือ ผลการโหวตเลือกประธานสภาฯ ในวันนี้ ซึ่งการประชุมสภาฯ จะเริ่มต้นในเวลา 9.00 น. และกระบวนการโหวตเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้งสองตำแหน่ง อาจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนสูงอยู่ ท่ามกลางปัจจัยการเมืองในประเทศที่เริ่มมีผลกับตลาดการเงินไทยมากขึ้นในระยะนี้ อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นแผ่วลงมากขึ้น ทำให้หากเงินบาทอ่อนค่าลงก็อาจจะยังคงติดโซนแนวต้านแถว 35.50 บาทต่อดอลลาร์ หรือโซนแนวต้านสำคัญที่เราเคยประเมินไว้ก่อนหน้าแถว 35.75 บาทต่อดอลลาร์ 

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการเลือกประธานสภาฯ เพราะหากผลการเลือกเป็นไปตามที่ทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเสนอและแถลงในคืนก่อนหน้า เรามองว่า ตลาดการเงินอาจตอบรับในเชิงบวก หนุนให้เงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทดสอบโซนแนวรับ 34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก ทว่า หากผลการเลือกประธานสภาฯ ผิดจากคาด และสะท้อนความวุ่นวายทางการเมืองหรือความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล เราประเมินว่า เงินบาทก็มีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้เช่นกัน
 
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.20 บาท/ดอลลาร์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ก.ค. 2566 เวลา : 10:02:57

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:59 am