ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,282.72 จุด ลดลง 237.40 จุด หรือ -0.67%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,537.41 จุด ลดลง 29.34 จุด หรือ -0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,050.11 จุด ลดลง 77.17 จุด หรือ -0.55%
โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงแรง หลังจากบวกขึ้นต่อเนื่องหลายวันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 เนื่องจากถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับมากกว่า 4% หลังมีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวขึ้น ซึ่งหนังสือพิมพ์นิกเกอิ รายงานว่า BOJ จะตรึงเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นไว้ที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันศุกร์นี้ แต่จะหารือเกี่ยวกับการปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวขึ้นเหนือระดับดังกล่าว ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ยืนยันว่า BOJ อาจจะปรับนโยบายเล็กน้อยเพื่อให้สามารถดำเนินนโยบายควบคุมอัตราผลตอบแทนได้นานขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเร็วกว่าคาดในไตรมาส 2/2566 โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 2.4% สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 1.8% ทำให้นักลงทุนบางรายคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนก.ย. หลังเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด
ข่าวเด่น