ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,630.68 จุด เพิ่มขึ้น 71.15 จุด หรือ +0.20%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,576.73 จุด ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.27% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,283.91 จุด ลดลง 62.11 จุด หรือ -0.43% โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติแข็งแกร่งในเดือนก.ค. โดยส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ตลอดเดือนก.ค. ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 3.4% และในระหว่างเดือนก.ค. ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 13 วันทำการ ซึ่งทำสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 3.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เช่นกัน
สัปดาห์นี้ นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดโดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP วันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.
ข่าวเด่น