ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,575.53 จุด ลดลง 70.46 จุด หรือ -0.20%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,467.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.12% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,813.59 จุด เพิ่มขึ้น 39.97 จุด หรือ +0.29% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.
ด้าน คอนราด เดควาดรอส นักวิเคราะห์บริษัท Brean Capital กล่าวว่า แม้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่ภาพรวมของตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเงินเฟ้อที่เกิดจากภาคบริการ (services inflation) นั้น ทำให้นักลงทุนไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 97% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ แต่ให้น้ำหนักเพียง 61% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ข่าวเด่น