ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้(14 ก.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,907.11 จุด เพิ่มขึ้น 331.58 จุด หรือ +0.96%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,505.10 จุด เพิ่มขึ้น 37.66 จุด หรือ +0.84% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,926.05 จุด เพิ่มขึ้น 112.47 จุด หรือ +0.81% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.2% และดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งหลายรายการ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า โดย รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัท Baird แสดงความเห็นว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดเป็นสิ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในเส้นทางซอฟต์แลนดิ้ง ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจไม่ได้ขยายตัวร้อนแรงเกินไปจนทำให้เฟดเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนักเพียง 3.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%
วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดและการประกาศเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ข่าวเด่น