ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (19 ต.ค.66) ดัชนีอยู่ที่ 1,427.34 จุด ลบ 10.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,444.91 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้อ่อนตัวแนวรับ 1,430 / 1,425 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจาก สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักหุ้นคาดงบ Q3/23 เติบโตช่วยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตาม สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสมีแนวโน้มบานปลายประกอบกับตัวเลขการก่อสร้างบ้านเดี่ยวสหรัฐ +1.8% ส่งผลให้ US bond yield พุ่งขึ้นซึ่งจะกดดันต่อการลงทุนและ Fund flow ในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- PTTEP BCP SPRC TOP ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง
- STA NER TEGH TRUBB ราคายางพาราพุ่งขึ้น
- PSL TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น
- กลุ่มที่คาดงบ 3Q23F เติบโต ADVANC BTS BEM SAPPE ICHI OSP AMATA TOP SPRC CENTEL AOT
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
-) ดาวโจนส์ร่วงแรงหลัง US Bond yield พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปีและกังวลเหตุรุนแรงในตะวันออกกลาง: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 332.57 จุด (-0.98%) ปิดที่ระดับ 33,665 จุด หลัง US Bond yield 10 ปีของสหรัฐพุ่งแตะระดับ 4.94% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี กังวลเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็น เวลานานหลังกิจกรรม ศก. สหรัฐยังอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ตลาดยังกังวลกับเหตุการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง
(-) IMF ลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้และปีหน้าจากผลกระทบของ ศก. โลกที่ผันผวน: IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เหลือขยายตัว 2.7%จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3.4% และลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีหน้าเหลือขยายตัว 3.2% จากเดิมคาดว่าจะโต 3.6% เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกยังผันผวน จีนยังมีความไม่แน่นอน และมีประเด็นข้อขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยกดดันเพิ่ม
(+) จีนประกาศ GDP 3Q23 ดีเกินคาด หลายกิจกรรม ศ.ก. มีสัญญาณบวก: จีน GDP 3Q23 ขยายตัว 4.9% แม้จะชะลอตัวลงจาก 6.3% ใน 2Q23 แต่ดีกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขยายตัว 4.4 -4.6 % ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% สูงกว่าเดือน ส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.6%yoy นับเป็นการปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.5%yoy สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4.3%yoy
ข่าวเด่น