ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (9 พ.ย.66) ดัชนีอยู่ที่ 1,408.82 จุด ลบ 2.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,749.86 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้ พักตัวในกรอบ 1,400 - 1,420 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจาก คาดการณ์ FED ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ US Bond yield อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลังงานจะเป็นตัวฉุดตลาดหลังราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงจาก ความกังวลอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐและจีนจะชะลอตัว โดย EIA คาดว่าปริมาณการใช้ น้ำมันเบนซินในสหรัฐจะลดลง 1% ในปี 2567 จึงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- GULF GPSC BGRIM TASCO SCGP อานิสงส์ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง
- MTC SAWAD KTC AEONTS ASK อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง
- กลุ่มคาดงบ 3Q23F เติบโต BDMS CHG BTS BEM SAPPE CBG AMATA CENTEL AOT
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม
(+) US Bond yield ลดลงต่อเนื่องแม้สุนทรพจน์ของประธานเฟดไม่ได้พูดถึง ทิศทางดอกเบี้ย: ประธานเฟดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานครบรอบ 100 ปีสำนัก สถิติของเฟดโดยไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินและดอกเบี้ยของสหรัฐ แต่ US Bond yield ยังลดลงและล่าสุดต่ำกว่าระดับ 4.5% เนื่องจากนักลงทุนยังให้น้ำหนักกับ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวจะกดดันให้เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย
(-) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น และ EIA ลด คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีหน้า: ราคาน้ำมันดิบลดลง 2.04$ (-2.6%) ปิดที่ 75.33$/bbl จาก 1)สำนักงานปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบ สหรัฐเพิ่มขึ้น 11.9 ล้านบาร์เรล จาก 1.35 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า, 2) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)ลดคาดการณ์ราคา น้ำมันดิบ WTI และ Brent 1.8% สู่ระดับ 89.24 และ 93.24$/bbl ตามลำดับ
(+/-) วันนี้ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของจีน และไทยรายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค: เบื้องต้น Consensus คาดเงินเฟ้อจีนเดือน ต.ค. จะ ติดลบ 0.1% จาก 0% บ่งชี้ว่าจีนกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนของจีน, ส่วนไทย ม.หอการค้าจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค.หากปรับขึ้นต่อเนื่องจะเป็นการปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
ข่าวเด่น