ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.94 จุด ลดลง 220.33 จุด หรือ -0.65%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,347.35 จุด ลดลง 35.43 จุด หรือ -0.81% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,521.45 จุด ลดลง 128.97 จุด หรือ -0.94% หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
โดยนายพาวเวลได้กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า “เจ้าหน้าที่เฟดยังไม่มั่นใจว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงมากพอที่จะควบคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่ และแม้ว่าเฟดไม่ต้องการให้นโยบายการเงินมีความเข้มงวดมากเกินไป แต่เราตระหนักว่าความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดคือความล้มเหลวในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยขณะนี้เฟดกำลังประเมินว่าเราควรจะดำเนินการมากขึ้นอีกหรือไม่ และจากนั้นเราจะประเมินว่าควรตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าใด”
ด้าน นายปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์ บริษัท Spartan Capital Securities กล่าวว่า การแสดงความเห็นของพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เขากำลังสื่อสารกับตลาดว่าภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ และหากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ เฟดก็ไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในปีนี้แม้ได้รับรู้ถ้อยแถลงของนายพาวเวล แต่นักลงทุนมองว่าการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอาจจะถูกเลื่อนออกไป
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.636% หลังจากผลการประมูลพันธบัตรอายุ 30 ปีวงเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ออกมาน่าผิดหวัง โดยอุปสงค์พันธบัตรมีมากกว่าปริมาณพันธบัตรที่นำออกประมูลเพียง 2.24 เท่า
ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 218,000 ราย
ข่าวเด่น