ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนวันศุกร์ (17 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,947.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.01%,ดัชนี S&500 ปิดที่ 4,514.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,125.48 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด หรือ +0.08% โดยคาดเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือ soft landing และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งแรกปีหน้า หลังนายไมเคิล บาร์ รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดหรือใกล้ระดับสูงสุดแล้ว
ด้าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลการชัตดาวน์ปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว ส่งผลให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล
ส่วนอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดได้แก่การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบราว 2 เดือน
ข่าวเด่น