ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 56.68 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 35,333.47 จุด,ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 8.91 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 4,550.43 จุด และ ดัชนีแนสแดค ปิดลดลง 9.83 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 14,241.02 จุด
โดย Tom Hainlin นักยุทธศาสตร์การลงทุนระดับประเทศ กล่าวว่า นักลงทุนหยุดการซื้อ-ขายชั่วคราว เพื่อจับตาข้อมูลการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จากการชำระสินค้าหรือบริการกับร้านค้าทั่วไปผ่านช่องทางออนไลน์ ในวันไซเบอร์ มันเดย์ (Cyber Monday) ซึ่งคาดว่าจะมีชาวสหรัฐฯ ใช้จ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ Adobe Analytics ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกล่าสุดเกี่ยวกับภาวะของผู้บริโภคชาวอเมริกัน ซึ่งการใช้จ่ายดังกล่าว คิดเป็นประมาณ 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ความยืดหยุ่นของผู้บริโภคและความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ท่ามกลางสัญญาณของเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้นักลงทุนจำนวนมากมองความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด จะสิ้นสุดวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่อาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไว้นานกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ 96.8% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567, มี.ค.2567 และพ.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.2567
นักลงทุนจับตาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะเผยแพร่สัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ข่าวเด่น