ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (6 ธ.ค.66) ดัชนีอยู่ที่ 1,382.66 จุด ลบ 0.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,591.85 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้ แกว่งตัว 1,370 - 1,395 จุด แม้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะทยอยลดลงในช่วงกลางปีหน้าส่งผลให้ US bond yield อ่อนตัวลง รวมถึงกองทุน TSEG ที่เริ่มขายตั้งแต่ 8 ธ.ค.จะเป็นบวกต่อดัชนี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ ปรับตัวลง , มูดี้ส์หั่นแนวโน้มเครดิตจีนสู่เชิงลบจากเศรษฐกิจชะลอตัว และภาคอสังหาฯ หดตัวจะกดดันต่อภาวะการลงทุน จึงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- GULF GPSC BGRIM TASCO SCGP อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง
- MTC SAWAD KTC AEONTS อานิสงส์ Bond yield อ่อนต้วลง
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
(+) กลุ่มค้าปลีก ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย Easy e-Receipt เริ่ม 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. ปีหน้า: มาตรการ Easy e-Receipt (เดิม e-Refund) เป็นมาตรการให้สิทธิกับประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้ามารวม หักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้จำนวนไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน เริ่มใช้ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ.67 คาดกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนมากขึ้นเป็นบวกกับกลุ่มห้างสรรพสินค้า (CRC), วัสดุก่อสร้าง (HMPRO DOHOME GLOBAL) ค้าปลีกมือถือ (COM7, JMART, SYNEX)
(-) กลุ่มน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน กังวลดีมานด์ชะลอตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.72$ ปิดที่ระดับ 72.32$/bbl ทำ สถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เป็น Sentiment ลบกดดันหุ้นกลุ่มน้ำมันโดยเฉพาะ PTTEP นักลงทุนยังกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จะทำให้ดีมานด์พลังงานของโลก ลดลง อีกทั้งการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคา น้ำมันดิบ
(-) ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงร่วงแรงผิดหวังมูดี้ส์ลดแนวโน้มเครดิตจีนเป็นเชิงลบ: วานนี้ มูดี้ส์ ปรับลดแนวโน้มเครดิตรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากเดิมมีเสถียรภาพ แต่คงอันดับเครดิตไว้ที่ A1 ตามเดิม สะท้อนภาระหนี้ที่สูงขึ้น จากการดำเนิน นโยบายด้านการคลัง การให้เงินกับรัฐบาลท้องถิ่น และบริษัทของรัฐที่มีปัญหาด้าน หนี้สิน ขณะที่เศรษฐกิจ มีแนวโน้มชะลอตัวในระยะกลาง และยังมีความเสี่ยงจากวิกฤติในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน (ตลาดหุ้นจีน -1.67%, ฮ่องกง-1.91%)
ข่าวเด่น