หุ้นไทยวันนี้ 8 ธ.ค.66 นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น และเม็ดเงินจากกองทุน TSEG SSF RMF ช่วงท้ายปี อย่างไรก็ ตาม Fund flow ต่างชาติที่ยังไหลออก และตลาดหยุด long weeken 3 วัน จะกดดันให้ดัชนีผันผวน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
GULF GPSC BGRIM SCGP SCC EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง
KCE HANA BE8 BBIK อานิสงส์ Nasdaq ดีดตัวขึ้น
WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ดัชนี SET INDEX ณ 7 ธ.ค.66
ดัชนี SET INDEX ณ 7 ธ.ค.66
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
(-) ยอดนำเข้าจีนเดือนพ.ย.พลิกเป็นติดลบสะท้อนดีมานด์สินค้าส่งออกไทยชะลอตัว: วานนี้จีนรายงานยอดส่งออกเดือนพ.ย. พลิกเป็นขยายตัว 0.5%yoy จากเดือนต.ค. ที่หดตัว 6.4%yoy นับเป็นการขยายตัว yoy ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตามยอดนำเข้ากลับหดตัว 0.6%yoy จากที่เพิ่มขึ้น 3%yoy ในเดือนต.ค. เรามองเป็นลบกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะยอดนำเข้าที่หดตัวสะท้อนดีมานด์สินค้านำเข้าจากไทยลดลงเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออกโดยเฉพาะกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์
(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm Payrolls ชี้วัดความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐ: Nonfarm Payrolls หรือการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นอีกหนึ่งตัวเลขที่เฟดให้ความสำคัญ หากตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวลดลงหรือต่ำกว่า คาดจะเพิ่มโอกาสให้เฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปมากยิ่งขึ้นเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน โดย Consensus คาดจำนวนการจ้างงานที่ 1.8 แสนคน เพิ่มขึ้นจาก 1.5 แสนคนในเดือนต.ค. และ คาดอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.9%
(+/-) สัปดาห์หน้า สัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกโฟกัสหลัก อยู่ที่ FED Meeting: โดย FED Meeting จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.66 ตามด้วย BoE และ ECB Meeting จะมีขึ้นในวันเดียวกันคือ 14 ธ.ค.66 เราคงมุมมองเดิมคาด FED, BoE และ ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25 - 5.5%, 5.25% และ 4.5% ตามลำดับ แต่สิ่งที่จะต้องจับตา และอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดจะอยู่ที่ ถ้อยแถลงหลังการประชุมของประธานเฟด, Dot Plot และ คาดการณ์ GDP ในปีหน้าของสหรัฐ
ข่าวเด่น