ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (12 ธ.ค.66) ดัชนีอยู่ที่ 1,383.31 จุด บวก 2.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,139.26 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้ แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ขึ้นและเม็ดเงินจากกองทุน TSEG SSF RMF ช่วงท้ายปี อย่างไรก็ตาม แรงขายลดความเสี่ยงเพื่อติดตามการประชุม FED ECB และ BOE ในสัปดาห์นี้จะกดดันให้ดัชนีผันผวน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- PTTEP TOP SPRC BCPอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น
- KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนตัวลง
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
(+) ตลาดมองบวก ศก.สหรัฐจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังตัวเลขในตลาดแรงงานออกมาดี: เมื่อวันศุกร์สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาค เกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.99 แสนตำแหน่งสูงกว่าที่ตลาด คาดไว้ที่ 1.8 แสนตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเป็น 3.7% จาก 3.9% ในเดือน ต.ค. จากตัวเลขที่ออกมาดีดังกล่าวทำให้ตลาดเชื่อว่า ศก. สหรัฐจะชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป (Soft landing) มากกว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยแบบ รุนแรงอย่างที่กังวล
(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ดัชนีชี้วัดสุดท้ายก่อน FED Meeting: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) เดือน พ.ย.ของ สหรัฐจะลดลงเป็น 3.1% จาก 3.2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาด ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 4% ตามเดิม หากตัวเลขเป็นไปตามที่ตลาดคาดมองเป็นกลางกับตลาดและภาพรวมการลงทุน
(+/-) พรุ่งนี้ FED Meeting จับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด, Dot Plot และคาดการณ์ GDP ปีหน้าของสหรัฐ: เราคงมุมมองเดิมคาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ ระดับ 5.25-5.5% ตามเดิม ซึ่งตลาดรับรู้ไปแล้ว แต่มีสิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มและอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด คือ การกล่าวถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังการประชุม, FED Dot Plot บอกแนวโน้มและจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยปีหน้า รวมไปถึงคาดการณ์ GDP ของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณการเกิด Recession
ข่าวเด่น