ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (28 ธ.ค.66) ดัชนีอยู่ที่ 1,413.47 จุด บวก 3.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,624.42 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้ แกว่งตัว 1,400 - 1,420 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ sentiment บวกคาดการณ์ FED เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ปีหน้า รวมถึงเม็ดเงินกองทุน RMF SSF TESG ช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัว ลงหลังมีรายงานว่าเรือขนส่งสินค้าจะเริ่มกลับมาเดินเรือในทะเลแดงนั้นกดดันต่อ กลุ่มพลังงาน อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อน Long weekend ช่วงปีใหม่จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- GULF GPSC BGRIM TASCO EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง
- CRC CPN HMPRO GLOBAL DOHOME COM7 อานิสงส์ E-refund
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
(+) จีนมีสัญญาณบวก ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน: สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม จีนเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 29.5%yoy สูงขึ้นจากเดือน ต.ค.ที่ขยายตัวเพียง 2.7%yoy นับเป็นการเติบโต yoy เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เป็นหนึ่งความหวังที่จะเห็นการ ฟื้นตัวทาง ศก.ของจีนในอนาคต
(-) น้ำมันดิบพลิกปิดลบคลายกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดง: น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.46 ดอลลาร์ (- 1.93%) ปิดที่ 74.11$/bbl หลัง Maersk ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก, CMA CGM ของ ฝรั่งเศส และ Hapag-Lloyd ของเยอรมนี ประกาศว่าจะกลับมาเดินเรือในทะเล แดงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐและชาติพันธมิตรอีกกว่า 10 ประเทศได้เปิดปฏิบัติการ ให้ความคุ้มครองในพื้นที่ดังกล่าว
(+/-) วันนี้ ธปท.รายงานภาวะ ศก.ไทยเดือน พ.ย. หากออกมาดีจะเพิ่มความ เชื่อมั่นให้กับตลาด: หลังจากเมื่อเดือน ต.ค. เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการฟื้นตัว ของการบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชน เหลือเพียงภาคการผลิตที่ยังหดตัว ดังนั้นหากเดือน พ.ย. การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวได้ต่อและ การผลิตกลับมาฟื้นตัวจะทำให้แนวโน้ม ศก.หรือ GDP ของไทยใน 4Q23 โตใน อัตราที่เร่งขึ้นจาก 3Q23 เป็น Sentiment บวกหนุนตลาด
ข่าวเด่น