ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,710.10 จุด เพิ่มขึ้น 53.58 จุด หรือ +0.14%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,783.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด หรือ +0.04%,ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,095.14 จุด ลดลง 4.04 จุด หรือ -0.03% ขานรับการเปิดเผยตัวเลขผู้รับขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่สูงกว่าคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย ซึ่งบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอการฟื้นตัว และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวที่ระดับ 71.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี หรือนับตั้งแต่ NAR จัดทำดัชนีดังกล่าวในปี 2544 และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 5.2% ในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีอาจปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนพ.ย.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า บรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 74.1% ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
นอกจากนี้ ตลาดจับตาปรากฏการณ์ “ซานตา แรลลี” ของตลาดหุ้นนิวยอร์กในปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ข่าวเด่น