ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (8 ม.ค.67) เวลา 9.59 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,426.61 จุด ลบ 1.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,698.61 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET วันนี้ อ่อนตัวแนวรับ 1,420 - 1,425 จุด จากความไม่แน่นอนของทิศทางดอกเบี้ย FED หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนธ.ค.สูงกว่าคาดส่งผลให้ ค่าเงิน USD และ US bond yield ดีดตัวขึ้นซึ่งเป็นลบต่อภาวะการลงทุนและแนวโน้ม Fund flow อย่างไรก็ตาม แรงซื้อกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะช่วยหนุนดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- PTTEP TOP SPRC IVL ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
AOT AAV BA CENTEL ERW MINT SPA ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวไทย/จีนแบบถาวร
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :
(-) ข่าว ITD เลื่อนจ่ายหนี้เงินต้นหุ้นกู้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นกู้ไทยโดยตรง: ข่าว ITD จะขอผู้ถือหุ้นกู้เลื่อนจ่ายชำระหนี้เงินต้นเป็นเวลา 2 ปี แต่ ดอกเบี้ยยังชำระตามเดิม ประเด็นนี้กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นกู้โดยตรง การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ทำได้ยากและมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อาจ กระทบกลุ่มบริษัทที่ต้องการ Roll over หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดหรือกลุ่ม บริษัทในธุรกิจไฟแนนซ์ซึ่งนิยมระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้เป็นหลัก
(-) ภาคอสังหาฯ และ เศรษฐกิจจีนยังเสี่ยงหลัง จงจื่อ ธนาคารเงารายใหญ่ของ จีนยื่นล้มละลาย: จงจื่อ เอนเตอร์ไพรส์ กรุ๊ป ได้ประกาศล้มละลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากไม่สามารถจ่ายชำระผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยฯ ได้เนื่องจากมี ภาระหนี้สินจำนวนมาก ข่าวนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมเชิงลบไปถึง อุตสาหกรรมทรัสต์ฯ ทั้งระบบและอาจจะส่งผลกระทบไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อื่นๆ อาทิ อสังหาฯ และท้ายที่สุดจะฉุดให้ GDP จีนขยายตัวต่ำกว่าที่คาดกันไว้ เป็นลบกับกลุ่มธุรกิจที่ link กับจีน อาทิ พลังงาน ส่งออก และ ท่องเที่ยวฯ
(-) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐดีเกินคาดลดโอกาสที่เฟดจะลด ดอกเบี้ยเดือน มี.ค.: สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง จาก 173,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. และมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพยง 170,000 ตำแหน่ง ส่วน อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ตามเดิม สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐยัง แข็งแกร่งทำให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.ลดลงเหลือ 53.8% จาก 73.8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวเด่น