ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัว และเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบด้านล่างในลักษณะ Sideway down ที่บริเวณ 2,015 - 2,020 เหรียญ ในปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง ขณะที่ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในวักศุกร์ ออกมาค่อนข้างทรงตัว ได้แก่ Core PCE Price Index m/m และ Personal Income m/m ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Personal Spending m/m และ Pending Home Sales m/m ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ทำให้ภาพรวมดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในระดับสูง 103.1 - 103.5 จุด ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 103.51 จุด ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาจากระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 35.56 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทมีแนวรับระยะกลางอยู่แถวบริเวณ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์ เรียกได้ว่าค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าลง ขณะที่ราคาทองตลาดโลกยังคงทรงตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ราคาทองไทยกลับลงมาแตะที่ระดับ 34,000 บาทต่อบาททองคำ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 2.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 856.05 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideway Down โดยมีแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ระดับ 2,010 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,040 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,035 เหรียญ และแนวต้าน 2,065 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,010 เหรียญ และแนวต้าน 2,040 เหรียญ ในส่วนของราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 33,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 34,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G24 จะมีแนวรับที่ระดับ 34,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 34,400 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways Down เน้นการถือสถานะ Short Position
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบระยะสั้น เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เทรดเก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น