ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (12 ก.พ.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮที่ 38,797.38 จุด เพิ่มขึ้น 125.69 จุด หรือ +0.33%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,021.84 จุด ลดลง 4.77 จุด หรือ -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,942.55 จุด ลดลง 48.11 จุด หรือ -0.30%
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ ซึ่งดัชนี CPI ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 3.4% ในเดือนธ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 3.9% ในเดือนธ.ค.
นอกจากดัชนี CPI แล้ว นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 52.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ค. จากก่อนหน้านี้ที่เคยให้น้ำหนักสูงกว่า 95%
ข่าวเด่น