ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (25 มี.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,313.64 จุด ลดลง 162.26 จุด หรือ -0.41%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,218.19 จุด ลดลง 15.99 จุด หรือ -0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,384.47 จุด ลดลง 44.35 จุด หรือ -0.27%
เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. 2566 ขณะที่ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. 2566 และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนม.ค. 2567
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% เช่นกันในเดือนม.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค.
ข่าวเด่น